สมัครกู้ยืมเงินด่วนแบบบัตรเครดิต สินเชื่อเงินสดหรือเงินกู้นอกระบบกับหลายบริษัทแล้วจะได้รับผลดีกว่า
ลิสซิ่ง

จากภาพด้านบนหลายท่านคงอาจจะยังสงสัยว่าเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร มีทั้งรถยนต์ ทั้งเงิน ทั้งคน และมีคำว่า Rent หรือการยืมอยู่ด้วย ภาพดังกล่าวที่มีหลากหลายตัวละครประกอบอยู่นั้นเป็นภาพกราฟฟิคสื่อความถึง “ลิสซิ่ง (Leasing) หรือบางคนอาจจะสะกด ลีสซิ่ง” ซึ่งเราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับความหมายของภาพนี้ และของคำว่า ลิสซิ่งอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ลิสซิ่งคืออะไร?
ลิสซิ่ง และ/หรือลีสซิ่ง หรือในภาษาอังกฤษ คือคำว่า Leasing นั้นหมายถึง การทำสัญญารูปแบบหนึ่งที่มีจุดเด่นตรงที่เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าลิสซิ่งแล้ว ผู้ขอสินเชื่อลิสซิ่ง หรือลูกค้ามีตัวเลือกในการทำสัญญาเช่าต่อ หรืออีกตัวเลือกนึง ได้แก่ การส่งทรัพย์คืนแก่ผู้ให้เช่านั่นเอง โดยลิสซิ่ง (Leasing) ส่วนใหญ่ผู้ทำสินเชื่อลิสซิ่งจะเป็นบริษัท และ/หรือนิติบุคคลผู้ซึ่งต้องการเช่าทรัพย์ที่มีราคาสูง หมายรวมไปถึงผู้ที่ต้องการเช่าทรัพย์ในปริมาณที่มากนั่นเอง ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่สามารถพบเห็นได้จากการทำสัญญาลิสซิ่ง ได้แก่ รถยนต์, เครื่องจักร และเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
โดยลิสซิ่ง (Leasing) จะต่างจากสัญญาเช่าซื้อ หรือไฟแนนซ์ลิสซิ่งตรงที่ สัญญาเช่าซื้อนั้นลูกค้าผู้ทำสัญญาเช่าซื้อ หรือไฟแนนซ์ลิสซิ่งนั้นต้องชำระเงินค่าเช่าเป็นงวดๆ ในแต่ละเดือน ซึ่งชำระเงินตามจำนวน และเวลาให้เช่าตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อคล้ายๆ ระบบกู้เงินด่วนธนาคารนั่นเอง
ลิสซิ่งรถยนต์
ลิสซิ่งรถยนต์เป็นหนึ่งในประเภทของลิสซิ่งที่มีลูกค้าเยอะมากเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งลิสซิ่งรถยนต์ที่ว่านี้มีจุดเด่น และโปรโมชั่นที่ทำให้ลิสซิ่งผลิตภัณฑ์นี้ต่างจากลิสซิ่งอื่นๆ รายละเอียดดังตัวอย่างลิสซิ่งรถยนต์ของธนาคารกสิกรดังต่อไปนี้
ภาพด้านบนแสดงโปรโมชั่นพิเศษของลิสซิ่งรถยนต์ของธนาคารกสิกรที่มีจุดเด่นตรงที่แคมเปญ “ผ่อนอยู่ก็กู้ได้ ให้วงเงินเพิ่ม” อีกทั้งยังมาพร้อมกับคำโปรยดึงดูดการขอสินเชื่อด้วยอย่างการผ่อนในราคาประหยัดเพียงวันละ 55 บาทเท่านั้น
ภาพด้านบนแสดงรายละเอียดของสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ของธนาคารกสิกรที่มีจุดเด่น และข้อดีทั้งสิ้น 8 ประเด็นด้วยกัน ประกอบด้วย
- สามารถยื่นขอกู้ลิสซิ่งรถยนต์ในระหว่างที่กำลังผ่อนได้
- วงเงินสูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์จากราคาประเมิน
- แถมยังได้รับเงินส่วนต่างเพิ่มเติม
- ค่างวดที่ต้องผ่อนชำระลดลง
- รับรถที่อายุนานสูงสุด 16 ปี
- ผ่อนชำระเป็นระยะเวลานานกว่า 6 ปี หรือ 72 เดือน
- ไม่ต้องอาศัยคนค้ำประกันในการขอสินเชื่อลิสซิ่ง
- ทราบผลการอนุมัติลิสซิ่งรถยนต์ไวภายในหนึ่งวันตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น
ภาพด้านบนแสดงคุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ของธนาคารกสิกร โดยต้องเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ปัจจุบันยังค้างผ่อนชำระอยู่กับไฟแนนซ์ลิสซิ่ง และ/หรือสถาบันทางการเงินรายอื่น, มีรถยนต์ไว้ครอบครองอย่างต่ำครึ่งปี และต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ถึง 70 ปีเมื่อวันที่ทำสัญญา ส่วนกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ของธนาคารกสิกรเป็นชาวต่างชาติ ผู้สมัครรายนั้นต้องยื่นสำเนาเอกสารพาสปอร์ต และเอกสารรับรองการอนุญาตการทำงานด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เอกสารดังดล่าวต้องไม่หมดอายุเมื่อถึงวันที่สมัครลีสซิ่ง
ลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์
เมื่อข้างต้นได้ยกตัวอย่างลิสซิ่งรถยนต์ของธนาคารกสิกรกันไปแล้ว ต่อมาจะกล่าวถึง และทำความรู้จักกับลิสซิ่งรถยนต์ประเภทออนไลน์กันบ้าง โดยลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ที่ว่ามานี้มีชื่อว่าโตโยต้า ลีสซิ่ง ผ่านแอปพลิเคชั่น “TLT Simply” ซึ่งเป็นการขอสินเชื่อที่เข้ากับยุคปัจจุบันปีพ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023) เป็นอย่างมาก
คุณสมบัติของผู้สมัครลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ธนาคารกสิกร
หากคุณต้องการสมัครขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ในรูปแบบออนไลน์แล้วละก็ คุณไม่ควรพลาดการขอลีสซิ่งผ่านแอปพลิเคชั่น TLT Simply โดยสามารถเช็คคุณสมบัติของผู้สมัครลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ธนาคารกสิกร ได้ดังต่อไปนี้
- บุคคลธรรมดา สัญชาติไทยอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ผู้ที่เคยลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านธนาคาร รวมทั้งใช้งาน Mobile Banking ในการยืนยันตัวตนทางออนไลน์
เอกสารประกอบการขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ธนาคารกสิกร

ในส่วนของเอกสารประกอบการขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ธนาคารกสิกรนั้นก็มีไม่มากเพียงแค่ 2 เอกสาร ประกอบด้วย บัตรประชาชน (บัตรจริง) และเอกสารแสดงรายได้ของผู้สมัคร ตัวอย่างเช่น บัญชีธนาคาร (Bank Statement) ย้อนหลังเป็นระยะเวลา 90 วัน หรือ 3 เดือน และเอกสารสุดท้าย ได้แก่ หลักฐานเงินเดือนที่แสดงเดือนล่าสุดนั่นเอง
ขั้นตอนการขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์บนแอปฯ “TLT Simply”

ขั้นตอนวิธีการขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์บนแอปฯ “TLT Simply” มีวิธีการง่ายๆ เพียง 5 ขั้นตอนเท่านั้นดังนี้
- เมื่อดาวน์โหลดแอปฯ มาแล้วให้กดเข้าใช้งานแอปฯ “TLT Simply” จากนั้นกดที่เมนู “ขอสินเชื่อออนไลน์” โดยภายในขั้นตอนนี้หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการสมัครสามารถทำความรู้จักวิธีการสมัครได้ผ่านการกดที่คำว่า คลิก
- ขั้นตอนนี้ให้คุณเลือกรุ่นของรถยนต์ และค่างวดตามที่คุณต้องการ
- กรอกข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งยืนยันตัวตนออนไลน์
- ได้รับผลการอนุมัติขอสินเชื่อลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ จากนั้นให้คุณกดยืนยันรายละเอียด
- ขั้นตอนสุดท้าย ได้แก่ เลือกผู้แทนจำหน่าย และนัดวันสำหรับการรับรถยนต์นั่นเอง
ลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร
หลังจากที่ทราบตัวอย่างของลิสซิ่งทั้งลิสซิ่งรถยนต์ และลิสซิ่งรถยนต์ออนไลน์ไปแล้ว ต่อจากนี้จะกล่าวถึงตัวอย่างลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรให้คุณได้ทราบบ้าง
ลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรที่ว่ามานี้มีชื่อว่า “เฮงลิสซิ่ง” ซึ่งถูกจัดอยู่ในประเภทของ Non-Bank ที่มีจุดเด่นด้านการให้บริการสินเชื่อแบบไม่เช็คบูโรนั่นเอง โดยเฮงลิสซิ่งมีผลิตภัณฑ์ลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรที่มีดอกเบี้ยถูกต้องตามกฎหมายดังนี้
ลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร : มีโฉนดมีเงินก้อนใหญ่

เฮงลิสซิ่งแบบแรกมาพร้อมกับแคมเปญ “มีโฉนดเท่ากับมีเงินก้อนใหญ่” ซึ่งผลิตภัณฑ์ลิสซิ่งตัวนี้มีจุดเด่น และข้อดีตั้ง ดังนี้
- ไม่เช็คเครดิตบูโร ถ้าขอสินเชื่อวงเงินไม่เกินหนึ่งแสนบาท
- ไม่ต้องให้คนมาค้ำประกัน
- ไม่จำเป็นที่จะต้องมีรายได้ประจำ
- ระยะเวลาผ่อนนานสูงถึง 84 เดือน หรือ 7 ปีด้วยกัน
- วงเงินสูงสุดกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน
- อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 0.7 ต่อเดือน
ทั้งนี้ผู้สมัครขอสินเชื่อ Leasing “มีโฉนดเท่ากับมีเงินก้อนใหญ่” ต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ถึง 70 ปีบริบูรณ์ รวมถึงต้องเป็นเจ้าของโฉนด หรือต้องสามารถเป็นของบิดามารดา บุตร และคู่สมรสได้
ลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร : รถแลกเงิน

เฮงลิสซิ่งแบบต่อมามาพร้อมกับแคมเปญ “แค่มีเล่ม มีเงิน ก็ยังมีรถขับ” ซึ่งผลิตภัณฑ์ลิสซิ่งตัวนี้มีจุดเด่น และข้อดีตั้ง ดังนี้
- ไม่จำเป็นที่จะต้องมีรายได้ประจำ
- รถที่ผ่อนอยู้สามารถยื่นกู้ขอสินเชื่อได้
- รถปีไหนก็กู้ได้หมด
- ไม่จำเป็นที่จะต้องโอนเล่มทะเบียน
- ผ่อนชำระสูงสุด 84 งวด ชนิดลดต้นลดดอก
- วงเงินอนุมัติสูงถึงร้อยละ 85 ของราคาประเมิน
- ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมแล้วไม่มากกว่าร้อยละ 24 ต่อปี
ทั้งนี้ผู้สมัครขอสินเชื่อ Leasing “แค่มีเล่ม มีเงิน ก็ยังมีรถขับ” ต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ถึง 65 ปีบริบูรณ์
ลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร : กู้รถมือสอง

สินเชื่อบุคคลเฮงลิสซิ่งตัวอย่างสุดท้าย ได้แก่ สินเชื่อที่ให้บริการสำหรับการกู้ซื้อรถมือสอง มาพร้อมกับแคมเปญ “ต้องการได้รถยนต์ไว้ใช้ คันไหนก็ได้ รุ่นไหนก็ได้ ปีไหนก็ได้ เฮงลิสซิ่งจัดให้”ซึ่งผลิตภัณฑ์ลิสซิ่งตัวนี้มีจุดเด่น และข้อดีตั้ง ดังนี้
- ไม่จำเป็นที่จะต้องมีรายได้ประจำ
- รถใหม่ รถเก่าสามารถจัดไฟแนนซ์ลิสซิ่งได้
- ไม่ดู ไม่เช็คเครดิตบูโร
- วงเงินอนุมัติสูงถึงร้อยละ 85 ของราคาประเมินรถยนต์
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 84 งวด
โดยผู้ที่สนใจ Leasing ของเฮงลิสซิ่งผลิตภัณฑ์นี้สามารถซื้อรถยนต์แบบไม่จ่ายเงินสดในครั้งเดียวได้ ผ่านการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่บริษัทนั่นเอง จากนั้นจึงค่อยผ่อนชำระค่าเช่าซื้อเป็นรายเดือน
บริษัทลิสซิ่ง
ประเทศไทยมีบริษัทลิสซิ่งไม่ต่ำกว่า 30 บริษัททั่วประเทศไทยทั้งประเภทสินเชื่อลิสซิ่งสินเชื่อรถยนต์, สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น โดยตัวอย่างบริษัทลิสซิ่ง (Leasing Company) ในประเทศไทยมีดังต่อไปนี้
บริษัท | ประเภทของสินเชื่อลิสซิ่ง (Leasing) |
---|---|
บริษัท KTB Leasing จำกัด | ลิสซิ่งรถยนต์ |
บริษัท Ngern Tid Lor จำกัด | ลิสซิ่งจำนำทะเบียนรถ |
บริษัท General Card Services จำกัด | ลิสซิ่งส่วนบุคคลจากธนาคารกรุงศรี |
บริษัท Summit Capital Leasing จำกัด | ลิสซิ่งด้านการจำนำทะเบียนมอเตอร์ไซค์ |
บริษัท Singer (Thailand) จำกัด (มหาชน) | ลิสซิ่งเกี่ยวกับผ่อนสินค้า |
บริษัท Tesco Card Services จำกัด | ลิสซิ่งในรูปแบบของบัตรจาก Tesco Lotus |
บริษัทTurbo Cash (Thailand) จำกัด | ลิสซิ่งด้านการจำนำทะเบียนมอเตอร์ไซค์, รถยนต์ รวมไปถึงโฉนดที่ดินอีกด้วย |
บริษัท AEON Thana Sinsap (Thailand)จำกัด (มหาชน) | ลีสซิ่งในรูปแบบของบัตรสินเชื่อ |
บริษัท Aira & Aiful จำกัด (มหาชน) | ลีสซิ่งในรูปแบบของบัตรกดเงินสด |
ลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไร
ลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไร คำถามนี้เกิดขึ้นกับใครหลายต่อหลายคนที่ต้องการจะครอบครังทรัพย์สินทั้งแบบระยะยาว และครอบครองเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นๆ โดยข้อแตกต่างระหว่างลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า เช่าซื้อ นั้นมีด้วยกันหลากหลายปัจจัย รายละเอียดดังตารางด้านล่าง
ประเภท | ลิสซิ่ง (Leasing) | ไฟแนนซ์ / เช่าซื้อ
(Hire Purchase) |
---|---|---|
การใช้งาน | ใช้งานระยะยาว | ใช้งานตลอดชีพ เนื่องจากเป็นเจ้าของ |
กรรมสิทธิ์เมื่อสิ้นสุดสัญญา | อาจเป็นได้ทั้งเจ้าของ เช่าต่อ หรือแม้กระทั่งการคืนเครื่อง | เป็นเจ้าของโดยชอบธรรม |
ระยะเวลาเช่า | 1 ถึง 5 ปี | |
วงเงิน | แล้วแต่การพิจารณาของบริษัท | |
อัตราค่าเช่า | คงที่ตลอดสัญญา | |
การชำระค่าเช่า | เป็นรายเดือนในจำนวนที่เท่ากันทุกๆ เดือน | |
หลักประกัน |
|
|
การบันทึกบัญชีในงบดุล | บันทึกเป็นค่าเช่าทั้งหมด | บันทึกเป็นค่าเสื่อมราคารวมกับดอกเบี้ยจ่าย |
การลดหย่อนภาษี | ลดหย่อนมากกว่า | ลดหย่อนน้อยกว่า |
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อลิสซื่ง : ประเภทผู้ประกอบการ
กรณีที่ผู้สมัครขอสินเชื่อลีสซิ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนั้นจำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ผู้ประกอบการธุรกิจซึ่งเชี่ยวชาญธุรกิจดังกล่าว จะต้องไม่มีประวัติที่เสียหายเรื่องการทิ้งงาน หรือไม่มีประวัติด้านการถูกร้องเรียนให้ชดเชยค่าเสียหายจากหน่วยงานภาครัฐ และหรือภาครัฐวิสาหกิจ
- จดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด, กิจการค้าร่วม และบริษัทมหาชน
- ผู้ประกอบการธุรกิจที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ, หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หมายรวมไปถึงอบจ., อบต. และเทศบาล เป็นต้น
เอกสารที่ใช้ขอสินเชื่อลิสซื่ง : ประเภทผู้ประกอบการ
เอกสารกรณีที่ผู้สมัครขอสินเชื่อลีสซิ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ยื่นนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ เอกสารทั่วไป, เอกสารแสดงรายได้ และฐานะทางการเงิน และเอกสารประกอบเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดดังนี้
เอกสารที่ใช้ขอสินเชื่อลิสซื่ง (Leasing) : เอกสารทั่วไปของบริษัท
เอกสารทั่วไปที่ผู้ประกอบการธุรกิจต้องใช้ยื่นขอสินเชื่อประกอบด้วย
- ทะเบียนบ้าน โดยให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามชื่อ
- บัตรประชาชน โดยให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามชื่อ
- กรณีเปลี่ยนชื่อนามสกุล ให้ใช้ใบเปลี่ยนชื่อและนามสกุลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
- หนังสือรับรองบริษัทที่มีอายุไม่เกินสามเดือน
- ใบทะเบียนเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ภพ.20
- เอกสารรายการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท หรือ บอจ. 3
- เอกสารหนังสือบริคณห์สนธิ หรือ บอจ. 2
- หนังสือทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท หรือ บอจ. 5
- รายงานข้อมูลด้านเครดิตบูโรของบริษัท ตลอดจนของคณะกรรมการ (ถ้ามี)
- Company Profile หรือเอกสารแนะนำบริษัท ไม่ว่าจะเป็นประวัติของบริษัท รวมไปถึงประวัติของคณะกรรมการ (ถ้ามี)
เอกสารที่ใช้ขอสินเชื่อลิสซื่ง (Leasing) : เอกสารแสดงรายได้ และฐานะทางการเงินของบริษัท
เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารแสดงฐานะทางการเงินที่ผู้ประกอบการธุรกิจต้องใช้ยื่นขอสินเชื่อประกอบด้วย
- รายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคา หรือ Statement ที่มีอายุย้อนหลังครึ่งปี
- งบการเงิน (Financial statements) ย้อนหลังสามปี หากเปิดกิจการมาไม่ถึงสามปีให้ใช้งบการเงินในระยะเวลาเท่าที่มีถึงปีปัจจุบัน พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023)
- เอกสารแบบภ.พ.30 ย้อนหลังครึ่งปี
- เอกสารรายงานสรุปภาษีซื้อ และขาย ย้อนหลังครึ่งปี
- Performance Bond หรือเอกสารแสดงวงเงินสำหรับการค้ำประกันสัญญาที่ทำกับธนาคาร (ถ้ามี)
เอกสารที่ใช้ขอสินเชื่อลิสซื่ง (Leasing) : เอกสารประกอบเพิ่มเติมของบริษัท
เอกสารเพิ่มเติมที่ผู้ประกอบการธุรกิจต้องใช้ยื่นขอสินเชื่อประกอบด้วย
- เอกสารรับรองผลงานเพื่อนำมาประกอบพิจารณาอนุมัติลีสซิ่ง
- เอกสารตัวอย่างงานสัญญาการซื้อขาย หรือสัญญากสนติดตั้ง หรือสัญญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสัญญางาน, สำเนาใบสั่งซื้อสินค้า และหลักฐานใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
- เอกสารที่แสดงตัวอย่างงานใหม่สำหรับการขอสินเชื่อ อาทิ สัญญาปัจจุบัน, ใบสั่งซื้อ, เอกสารใบตรวจรับงาน และเอกสารวางบิล เป็นต้น
- เอกสารตัวอย่างในรูปแบบชุด เช่น เอกสารการวางบิล, เอกสารแสดงวิธีการเก็บเงินของลูกหนี้การค้าและเอกสารรายละเอียดการขึ้นทะเบียนลูกหนี้ เป็นต้น
ข้อดีและจุดเด่นของลิสซื่ง
สุดท้ายนี้จะขอสรุปข้อดี และจุดเด่นของลิสซิ่ง (Leasing) ให้คุณได้ทราบดังนี้
- การลดความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อลิสซิ่ง หรือผู้เช่าลิสซิ่งไปกับปัญหาด้านความล้าสมัยของทรัพย์ เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อลิสซิ่งสามารถเลือกเช่าทรัพย์ได้ ในกรณีที่ระยะเวลาเช่าไม่นานจนเกินไป
- เงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญามีจำนวนน้อยกว่าเงื่อนไขในสัญญากู้เงินทั่วไป
- การหาทุนในเงินที่เต็มจำนวน เนื่องจากการลิสซิ่งนั้นไม่ต้องมีเรื่องการชำระเงินดาวน์ล่วงหน้า อีกทั้งยังไม่โดนถูกหักเงินกรณีสำรอง ต่างจากการกู้เงินทั่วไปนั่นเอง
ภาระผูกพันธ์ไม่มากนักเมื่อกิจการที่ประกอบอยู่ได้ล้มละลาย เรียกได้ว่ากรณีที่ธุรกิจเกิดล้มละลายขึ้นนั้น ผู้ให้เช่า หรือผู้ให้กู้ลิสซิ่งนั้นมีสิทธิเพียงเรียกเก็บค่าเช่าที่ผู้เช่าค้างชำระตามสัญญาลีสซิ่งอยู่เท่านั้น ผู้ให้เช่า ไม่มีสิทธิในการฟ้องร้องให้ผู้เช่าล้มละลายได้ ซึ่งต่างจากการกู้เงินทั่วไป นอกเหนือไปจากนี้นั้นในส่วนของผู้ให้เช่า หรือเจ้าหนี้มีสิทธิใน
- การเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระเงินคืนทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยที่ยังค้างชำระอยู่ อีกทั้งเจ้าหนี้สามารถเรียกร้องฟ้องลูกหนี้ให้ตกอยู่ในสภาวะล้มละลายได้ เมื่อกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระเงินคืนหนี้ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
- ข้อดีของลีสซิ่งประการสุดท้าย ได้แก่ จุดเด่นด้านประโยชน์สำหรับภาษี เนื่องจากค่าเช่าจากสินทรัพย์นั้นถือเป็นค่าใช้จ่ายรายการนึงที่ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถนำรายได้ส่วนนี้ไปลบจากรายได้ทั้งหมดของบริษัทได้ เพื่อนำมาคำนวณหากำไรสุทธิของบริษัท และเพื่อนำไปคิดการเสียภาษีเงินได้ต่อไปภายหลัง
ข้อเสียและจุดด้อยของลิสซื่ง
สำหรับข้อเสีย และจุดด้อยของ Leasing ต่างๆ เช่น กรุงไทยลิสซิ่งรถยนต์ นั้นมีไม่มากนักเพียง 2 ข้อดังนี้
- กรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์นั้นยังคงเป็นของผู้ให้กู้สินเชื่อ หรือผู้ให้เช่า และ/หรือบริษัทลิสซิ่งอยู่ เพราะฉะนั้นผู้เช่าสินทรัพย์ไม่สามารถรับประโยชน์จากค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์นั้น โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่มูลค่าสูงมากนั้น เช่น ที่ดิน การเช่า จะทำให้ผู้เช่าเสียผลประโยชน์มากกว่า
- ภาระการจ่ายดอกเบี้ยที่สูง โดยดอกเบี้ยสำหรับลิสซิ่งเช่าสินทรัพย์นั้นโดยส่วนใหญ่มีอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของการกู้เงินแบบเงินกู้ที่ผู้ประกอบการธุรกิจกู้เพื่อซื้อทรัพย์สินนั้นๆ